Cropped Image

ความยั่งยืนที่บ้านปู

เรื่องราวความยั่งยืน

เส้นทางสู่ความยั่งยืนของเราเริ่มต้นด้วยคำมั่นสัญญาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง: เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน เรามุ่งมั่นที่จะผสานแนวทางความยั่งยืนในทุกด้านของการดำเนินกิจการ ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ผ่านกลยุทธ์ที่แน่วแน่ ผสานนวัตกรรม และความร่วมมือจากทุกฝ่าย

เส้นทางสู่ความยั่งยืน

ตั้งแต่ปี 2526 บ้านปูมุ่งมั่นที่จะรักษาความยั่งยืนโดยสร้างสมดุลระหว่างความรับผิดชอบและยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

การกำกับดูแลเพื่อความยั่งยืน

การกำกับดูแลระดับคณะกรรมการ

ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแลกิจการ (ESG) ทั้งในด้านกฎหมายและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว คณะกรรมการบริษัทจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแลกิจการ (คณะกรรมการ ESG) เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG ว่าบริษัทฯ มีการบริหารจัดการอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสีย

การกำกับดูแลระดับผู้บริหาร

บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานของการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน จึงบูรณาการกลยุทธ์ ESG สู่กระบวนการตัดสินใจและการบริหารจัดการในทุกระดับโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน

การทวนสอบเพื่อความยั่งยืน

การประกันความยั่งยืนเป็นกระบวนการที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าเชื่อถือของการปฏิบัติด้านความยั่งยืนของบริษัท มันเกี่ยวข้องกับการประเมินกระบวนการ ความยั่งยืน ข้อมูล และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่นำเสนอมีความถูกต้อง ครอบคลุม และสอดคล้องกับมาตรฐานและกรอบการทำงานที่ได้รับการยอมรับ กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่สร้างความไว้วางใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนความพยายามขององค์กรในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย

การประเมินประเด็นที่่สำคัญ

ประเด็นที่สำคัญที่สำคัญต่อความยั่งยืนจะถูกประเมินเพื่อจัดลำดับความสำคัญตามมาตรฐานการบริหารจัดการที่อ้างอิงจากมาตรฐานสากล ได้แก่ GRI Standards และ AA1000 AccountAbility Principles Standard (AA1000APS) โดยพิจารณาผลกระทบของประเด็นด้านการกำกับดูแลกิจการ สิ่งแวดล้อมและสังคมทั้งต่อบริษัทฯ ทุนธรรมชาติ ทุนสังคมและทุนมนุษย์ ทั้งนี้้ ฝ่ายบริหารโดยคณะกรรมการการพัฒนาที่ยั่งยืนและคณะกรรมการบริษัทโดยคณะกรรมการ ESG เป็นผู้ทบทวนและอนุมัติผลการประเมินประเด็นที่่สำคัญเป็นประจำทุกปีเพื่อรับรองความเชื่อมโยงของประเด็นและความถูกต้องแม่นยำของการประเมิน

การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เนื่องด้วยตระหนักดีว่าความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งนี้ในการพิจารณาประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสนใจ บริษัทฯ ใช้มาตรฐานการบริหารจัดการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Analysis Standard) ที่อ้างอิงจากมาตรฐาน AA1000 Stakeholder Engagement Standard (AA1000SES) ภายใต้ 3 หลักการที่สำคัญ ได้แก่ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย (Inclusivity) การพิจารณาประเด็นที่มีนัยสำคัญ (Materiality) และการบริหารจัดการที่เป็นระบบและโปร่งใส (Responsiveness) โดยผลการวิเคราะห์ของแต่ละหน่วยธุรกิจจะถูกวิเคราะห์ในระดับองค์กรอีกครั้งภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการการพัฒนาที่ยั่งยืน และคณะกรรมการ ESG

การวิเคราะห์ประเด็นที่สำคัญ

สูง

ผลกระทบต่อทุนธรรมชาติ ทุนมนุษย์และทุนสังคม

ต่ำ

ผลกระทบต่อบริษัทฯ

สูง

การทบทวนและปรับปรุงประเด็นที่สำคัญ

ในปี 2565 บริษัทฯ ทบทวนประเด็นที่สำคัญโดยพิจารณาจากการวิเคราะห์ข้อมูลแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก (Global trend) และประเด็นที่สำคัญของบริษัทในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน (Industry peer) รวมถึงการสัมภาษณ์ผู้บริหารในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวนำมาใช้ในการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการความยั่งยืนประจำปี 2565-2566 ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพสูงสุด ในปี 2566 บริษัทฯ ได้พิจารณาควบรวมประเด็น “การพัฒนาชุมชน” เข้ากับประเด็น “การมีส่วนร่วมของชุมชน” ส่งผลให้รายงานฉบับนี้ครอบคลุมประเด็นรวมทั้งสิ้น 24 ประเด็น โดยมีประเด็นที่สำคัญมากรวม 13 ประเด็น

ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership school)

บริษัทฯ ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและภาคเอกชนในการพัฒนาคุณภาพของระบบการบริหารจัดการสถาบันศึกษา โครงการนี้มุ่งเน้นการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเตรียมทักษะแห่งอนาคตให้แก่นักเรียน โดย บริษัทฯ ให้การสนับสนุน 3 โรงเรียนในจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด

ในปี 2566 บริษัทฯ ให้การสนับสนุนกิจกรรมหลักหลายโครงการ เช่น การยกระดับมาตรฐานทางวิชาการและนวัตกรรม การพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT การยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ การพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิต การส่งเสริมชุมชนแห่งการเรียนรู้ และการวางกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู

สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูก่อตั้งในช่วงต้นปี 2551 โดยมุ่งมั่นพัฒนานักกีฬาเทเบิลเทนนิส โดยการสนับสนุน ทั้งการฝึกซ้อมประจำวัน การเข้าร่วมแข่งขันในระดับประเทศ และนานาชาติ รวมทั้งยังมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย ความสามัคคี และการมีจิตอาสา

ความสำเร็จนับตั้งแต่เริ่มโครงการ

นักกีฬาทีมชาติในการแข่งขันซีเกมส์ 3 คน

เยาวชนทีมชาติ 9 คน

ยุวชนทีมชาติ 17 คน

นักกีฬาอาชีพในสาธารณรัฐโปแลนด์ 2 คน

สมาชิก 92 คน

นักกีฬา 68 คน

ผู้ฝึกสอน 11 คน

สมาชิกทั่วไป 13 คน

ศูนย์ฝึกซ้อม 9 แห่ง

ในปี 2566 ได้จัดค่าย “เยาวชนสานฝัน เทเบิลเทนนิสอุตรดิตถ์ ห่างไกลยาเสพติด” ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ในการเล่นกิจกรรมกีฬาให้เยาวชน โดยได้รับผลการตอบรับที่ดีจากชุมชนท้องถิ่น และมีผู้เข้าร่วมเป็นเยาวชนถึง 65 คนที่ได้รับการฝึกจากผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์ 30 คน

การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ

บริษัทฯ เห็นความสำคัญของผู้พิการ โดยมีการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา ผ่านการจ้างบริการนวดผ่อนคลายให้แก่พนักงานบริษัทฯ รวมไปถึงการบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้พิการโดยตรง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการจ้างงานคนพิการผ่านหน่วยงานส่วนกลางเข้าทำงานในชุมชน 

โครงการ B.Hack 2023 และ B.Connxt

โครงการ B.Hack 2023 และ B.Connxt เป็นการจัดแข่งขันด้านธุรกิจที่จัดขึ้นโดยนักศึกษาปีที่ 4 สาขานวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทฯ โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการก้าวข้ามความท้าทายระดับโลกผ่านโครงการนวัตกรรม

B.Hack 2023: Decoding Sustainability

ในช่วงต้นปี 2566 โครงการ B.Hack จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Decoding Sustainability” โดยมีนักเรียนเข้าร่วมทั้งหมด 150 คน จาก 38 ทีม ทั้งนี้โครงการคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้าย 20 อันดับแรกเพื่อนำเสนอแนวคิดให้คณะกรรมการในเดือนเมษายน 2566

B.Connxt: Decentralization

ในเดือนพฤศจิกายนปี 2566 โครงการ B.Connxt จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Decentralization” โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 180 คน นำเสนอ 59 แนวคิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้โครงการได้คัดเลือก 11 ทีมเพื่อแข่งขันในรอบสุดท้าย โดยผู้ชนะได้รางวัล 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้รางวัล 30,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับสอง ได้รางวัล 20,000 บาท 

บ้านปูบรรเทาภัยหนาว

ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2566 ได้เกิดสถานการณ์ภัยหนาว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ บริษัทฯ ได้ประสานผ่านหน่วยงานราชการท้องถิ่นและ “กลุ่ม Help Keeper คนจิตอาสา” ในการมอบเสื้อกันหนาวจำนวน 2,000 ตัว รวมมูลค่า 500,000 บาท ให้กับประชาชนในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก และอำเภอฝางและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ค่ายพาวเวอร์กรีน

บริษัทฯ ร่วมกับคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการจัดค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Power Green Camp) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 18 โดยในปี 2566 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Waste Warriors, Mission to save the world: Green Cloud - Green Tech - Green influencer” โดยคัดเลือกเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จำนวน 50 คน จาก 48 โรงเรียน ใน 30 จังหวัด

ค่ายพาวเวอร์กรีนในปีที่ผ่านมามุ่งเน้นให้เยาวชนเรียนรู้เกี่ยวกับประเด็นด้านการจัดการขยะมูลฝอยจากต้นทางสู่ปลายทาง โดยหลังจากการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เยาวชนนำความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรมมาสร้างเป็นโครงงานกลุ่ม และเสนอแก่คณะกรรมการค่ายฯ และสาธารณชนเพื่อชิงทุนการศึกษา ทั้งนี้ เยาวชนทั้งหมดที่ได้เข้าร่วมโครงการได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาขยะ รวมถึงสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากค่ายฯ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เสนอความคิดเห็น